สิ่งที่ผู้นำต้องมอง ตอน อย่ามองข้าม สิ่งอัศจรรย์ภายใน สาวอ้วนบ้านนอก

อยากจะหนุนใจท่านให้มีกำลังใจและอย่ากลัวที่จะฝัน เพราะมีบางสิ่งที่ซ่อนในตัวท่านที่สุดแสนวิเศษที่พระเจ้าทรงโปรดจัดเตรียมไว้ จึงอยากจะนำเรื่องของหญิงคนหนึ่งซึ่งอายุ 47 ปีจากชนบทแห่งหนึ่ง

ซูซาน บอยล์ Susan Boyle เป็นนักร้องมือสมัครเล่นชาวสกอตแลนด์ เป็นบุตรคนสุดท้องในบรรดาบุตรเก้าคนของนายแพทริก บอยล์ พนักงานโกดังที่โรงงานบริติชเลย์แลนด์ เมื่อตอนซูซานเกิด มารดามีอายุได้สี่สิบสี่ปี เวลานั้นเป็นช่วงที่ลำบากมาก เพราะไม่มีออกซิเจนเพียงพอจะให้แก่ซูซานเมื่อแรกเกิด ทำให้ประสาทการเรียนรู้ของเธอทำงานอ่อน เมื่อตอนเข้าโรงเรียนจึงเป็นที่กลั่นแกล้งและล้อเลียนกันอย่างสนุกสนานของเพื่อน ๆ

เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาโดยมีคุณสมบัติตามเกณฑ์เพียงบางประการแล้วนั้น ซูซานเข้ารับการอบรมประกอบอาหารที่วิทยาลัยเวสต์โลเธียน (West Lothian College) เป็นเวลาหกเดือน ในช่วงนั้นเธอชื่นชอบการเข้าชมละครเวทีและได้เข้าชมที่โรงละครท้องถิ่นหลายครั้ง ซูซานเข้ารับการอบรมร้องเพลงจากนักฝึกเสียงชื่อดัง เฟรด โอเนล (Fred O'Neil)

ต่อมา บิดาของซูซานถึงแก่กรรม และญาติพ้องน้องพี่ของเธอก็จากบ้านไปทั้งหมด ทิ้งให้ซูซานอาศัยอยู่ลำพังกับมารดาผู้ชรา กระทั่งนางบริดเจ็ตเสียชีวิตใน พ.ศ. 2550 เมื่ออายุได้เก้าสิบเอ็ดปี ซูซานคงพำนักอยู่ในบ้านหลังเดิมที่มีห้องนอนสี่ห้องต่อไป โดยมีแมวชราชื่อ "เพ็บเบิลส์" (Pebbles) เป็นเพื่อนแก้เหงา

เพื่อนบ้านของซูซานบอกนักข่าวว่า ซูซานไม่เคยมีหรือจัดงานวันเกิดของตัวเองเลยเพราะใช้เวลาดูแลเอาใจใส่มารดาอยู่เสมอ และหลังจากมารดาเสียชีวิตแล้ว ซูซานก็พยายามข่มใจต่อสู้กับการสูญเสียครั้งนี้โดยบอกกับตัวเองว่า จะขอทำใจอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอก ตอบเสียงเคาะประตู หรือรับโทรศัพท์สักสามสี่วัน

ซูซานบอกว่าการจากไปของมารดาตนเป็นแรงผลักดันให้เธอกล้าเข้าประกวดที่รายการ "บริเทนส์กอตทาเลนท์" วันที่เธอปรากฎตัวหน้าเวทีในการประกวด ผู้ชมในโถงประกวดย่อมมองเธอในเชิงลบเพราะเธอมีรูปลักษณ์ไม่น่าดูชม กระนั้น หากท่านชมยูทูป ที่เราแนบมาให้ ท่านจะเห็นการถ่ายทอดการสัมภาษณ์ของซูซาน และซูซานก็ตอบได้ไม่ถนัดนัก บางคำถาม คงเนื่องมาจากคนบ้านนอก ทำให้ที่ประชุมหัวเราะ และ ผู้ชมหลายคนก็ส่ายหน้าเมื่อเธอบอกว่าใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักร้องคนที่พิเศษ อีกทั้งอยากจะเป็นเหมือน "Elaine Paige (นักร้องละครเวทีระดับสุดยอด)" ยิ่งทำให้คนในที่ประชุมหัวเราะเยอะเธออีก และการแต่งการที่ล้าสมัย การพูดจากการตอบโต้สัมภาษณ์มีเสียงหัวเราะเยาะจากผู้ชมในห้องประชุมเป็นระยะ ๆ

กรรมการยิ้มเยาะในทำนองว่าจะเป็นไปได้หรอ เพลงที่จะร้องมันยากนะ เมื่อกรรมการถามว่าเธออายุเท่าไหร่ ซูซานบอกว่าเธออายุ 47 ปี และส่ายสะโพกอันหนาอ้วน บอกว่าและนี่ก็คือขนาดตัวของฉันที่มีมาตลอด
ดวงดาวเริ่มจรัสแสง เพราะเมื่อดนตรีเริ่มขึ้น Intro ของเพลง จบ ซูซาน บอยล์ เริ่มร้องเพลง I dreamed a dream (เพลงจากละครเวทีเรื่อง "เลมีเซราบล์" (Les Misérables) ใบหน้ากรรมการทั้งสามคนและคนในที่ประชุมต่างตาโต อึ้ง และตามด้วยรอบยิ้ม เสียงโห่ร้องด้วยความทึ่ง อัศจรรย์ใจในพลังเสียงของเธอ โดยเฉพาะท่อนแยกที่ร้องเสียงสูงและสูงที่สุด เธอสามารถลากเสียงยาวและดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้กรรมการสองในสามท่านยืนปรบมือให้ ที่ประชุม เจ้าหน้าที่ทำหน้าตกใจว่าทำได้อย่างไรนี่? เพียงหนึ่งสัปดาห์นับแต่มีคนนำการประกวดลงเว็บไซต์ Youtube ก็มีผู้เข้าชมมากกว่า 4,300ล้านครั้งทั่วโลก

อยากหนุนใจท่านในวันนี้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ท่านมีดีอยู่ในตัวตั้งแต่วันที่พระเจ้าสร้างท่านขึ้นมา ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และผู้นำทั้งหลาย อย่ามองคนแต่เพียงภายนอก เพราะยังมีอะไรดี ๆในตัวเขาเหล่านั้นที่อยู่กับท่าน มันรอเวลาและโอกาสที่จะเผยโฉมอันสง่างามออกมา เพราะเมื่อเวลามาถึง จังหวะสนับสนุน และท่านเองก็พร้อมแล้ว วันนั้นแหละจะเป็นวันของท่านครับ

(สำหรับเนื้อหาบาง ตอนผมได้คัด ตัดต่อ และนำมาเขียนใหม่ เพื่อให้กระชับ และได้นำมาจากเว็บที่แนบมาให้ หากท่านต้องการอ่านประวัติของซูซานบอยล์มากกว่านี้ ขอให้ท่านเข้าไปตามลิงค์ที่แนบมานะครับ

http://www.talesrunner.in.th/webboard/content.aspx?nForumID=1&nTopicID=148100

ส่วน คลิปวิดีโอการประกวด ผมได้นำลิงค์มาให้ตามข้างล่างนี้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=9lp0IWv8QZY&feature=related
ทองก็เป็นทอง

ในสมัยอิสราเอลจะมีกษัตริย์องค์แรกโดยเลือกจากเหล่าหมู่ประชาชน ปรากฏว่าคนที่ถูกเลือกเป็นชายหนุ่ม ชื่อ ซาอูล ซึ่งเป็นเผ่าที่เล็กที่สุดหรือเป็นน้องคนสุดท้อง เราต้องเข้าใจก่อนว่าอิสราเอลเขานับตามเผ่า มี 12 เผ่า เบญจมินจึงเป็นเผ่าที่เล็กที่สุด และวันที่เขาเลือกกษัตริย์ซาอูลก็ไปแอบอยู่ใต้กองสัมภาระ (1ซมอ10;22) เพื่อหลบผู้คน แต่สุดท้ายด้วยร่างกายที่โดดเด่นของเขา ประชาชนก็แต่งตั้งเขาเป็นกษัติย์ในเวลานั้น เรื่องนี้ทำให้ผมคิดถึงเมล์ที่ได้รับส่งต่อ ๆ กันมา มีฉบับหนึ่งที่ได้ส่งลิงค์ดูวีดีโอจากยูทูปหนุ่มนิรนามที่เมล์ฉบับนั้นบอกว่ามีคนดูเยอะที่สุดในขณะนี้ เพราะเขาใส่หมวกปิดหน้าตาเล่นกีต้าร์ เพลง Canon In D (ซึ่งเพลงนี้ มียี่สิบกว่าเวอร์ชั่นนะครับ) หากท่านที่ไม่เคยฟัง ผมเอาลิงค์เวอร์ชั่นปกติมาให้ฟัง แล้วท่านจะร้องอ้อว่าไพเราะมาก

http://www.youtube.com/watch?v=DZHw9uyj81g&feature=related



แต่ที่ผมได้รับเป็นเล่นโซโล่ในแนวร็อค ผมพยายามค้นหามองหาว่าเขาเป็นคนเชื้อชาติใด เพราะ คนอื่น ๆ ที่เล่นโชว์มักจะถ่ายหน้าตัวเอง จากนั้นผมก็เริ่มค้นหาพอรู้บ้างว่าคนแรกที่เล่นเพลงนี้เป็นคนมีชื่อเสียง คือYngwie Malmsteen เล่นเอาไว้เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว จากนั้นมีการเรียบเรียงดนตรีใหม่ ก็มีมือกีต้าร์หลายคนออกมาโชว์ผลงานในยูทูป และเป็นที่รู้จักคือ JerryC มือกีต้าร์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลก Youtube หนุ่มชาวไต้หวัน มีคนคลิ๊กเข้าชมถึง 17ล้านครั้ง แต่ต่อมา มีอีกคนโผล่ ขึ้นมา ก็คือ หนุ่ม เสื้อบืดใส่หมวกปิดหน้า และเล่นไห้ดียอด เยี่ยม มีคนคลิกเข้าไปดูอีก โดยไม่มีใครรู้ชื่อเสียงเรียงนาม หนุ่มคนนี้ จนต่อมา ยูทูปได้เปิดคอนเสริท มือกีต้าร์ฮีโร่ สมัครเล่นที่เด่นในยูทูป ขึ้นมา ปรากฎว่า เขาคือ เด็กชาวเกาหลีครับ บทความนี้ ผมกำลังจะบอกท่านว่า ทองก้คือทอง แม้วันนี้ไม่มีใครรู้จักท่าน หรือ จะแอบ ปกปิด ไม่โชว์ตัว แต่ด้วยผลงานและ ศักยภาพภายในท่าน มันจะต้องโชว์ขึ้นมา มห้โลกปรากฏสักวัน ไม่ว่า จะเป็น ซูซาน บอย ล์ หรือหนุ่ม พอล ที่ขาย มือถือ และสุดท้าย คือ Fantaw หนุ่มเกาหลีคนนี้มีคนเข้าชม 63ล้านครั้งแล้ว ผมจึง เอาลิ้งค์ ให้ท่านชม ตอนเขาไม่โชว์เปิดหน้าตา

http://www.youtube.com/watch?v=2GLoYg-4xrc&feature=related



และอีกลิ้งค์นี้เขาโด่งดังจากคอนเสิร์ตของยูทูปที่ได้เห็นหน้าตาชัด ๆ น่าภูมิใจนะครับว่าชาวเอเชียก็เก่งสู้ฝรั่งเขาได้

http://www.youtube.com/watch?v=OBHfb2sVWV4&feature=related



วันนี้ ฝึกฝน ปล้ำสู้ ในความฝันของท่าน แม้ท่านจะไม่ได้นำในโลกธุรกิจ หรือด้านใดด้านหนึ่ง แต่ท่านสามารถนำด้านศักยภาพที่ซ่อนภายในท่าน รอวันหนึ่งมันจะปรากฏแน่ หากท่านยังคงรักษาความฝันและทักษะ นิมิตนั้นไว้

"จงเขียนนิมิตนั้นลงไป จงเขียนไว้บนแผ่นป้ายให้กระจ่าง เพื่อให้คนที่วิ่งอ่านได้คล่อง เพราะว่านิมิตนั้นยังรอเวลาของมันอยู่ มันกำลังรีบไปถึงความสำเร็จ มันไม่มุสา ถ้าดูช้าไป ก็จงคอยสักหน่อย มันจะบังเกิดขึ้นเป็นแน่ คงไม่ล่าช้านัก ดูเถิด ผู้ที่จิตใจไม่ชอบธรรมก็จะล้ม แต่ว่าคนชอบธรรมจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความซื่อสัตย์ {หรือ ความเชื่อ} ฮะบากุก 2;3-4
สิ่งที่ผู้นำต้องมอง ตอน คนขายมือถือร้องเพลงโอเปร่า

ในตอนนี้อีกคนหนึ่งที่ผมอยากจะ นำมาเป็นกำลังใจแก่ท่าน คือ ชายหนุ่ม เซลล์แมนขายโทรศัพท์มือถือ ชื่อว่า Paul Potts ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง มักถูกเพื่อน ๆ รุมกลั่นแกล้ง และวันหนึ่งจังหวะชีวิตมาถึง เขาได้เข้าร่วมการประกวดร้องเพลง ใน Britain got talent ในเดือน พฤษภาคม 2007

ท่านลองคิดดูสิครับว่าชายหนุ่มคนหนึ่งอ้วน ๆ เตี้ย ๆ ฟันก็เก นัยน์ตาเศร้า ๆ ยิ้มแบบคนจะร้องไห้ มาประกวดร้องเพลง เมื่ออยู่ต่อหน้าคณะกรรมการ และกรรมการท่านหนึ่งถามว่า คุณจะมาทำอะไร เขาตอบอย่างเศร้า ๆ ด้วยบุคลิกของเขาว่ามาร้องเพลงโอเปร่าครับ กรรมการมองหน้ากัน และดูเหมือนจะแคลงใจว่าจะไปรอดหรือเปล่า เพราะเพลงที่เขาจะร้องเป็นเพลงโอเปร่าที่ร้องยากที่สุดเพลงหนึ่ง ชื่อเพลง Nessun Dorma

หลังจากร้องท่อนแรก ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่ท่อนที่สอง ด้วยน้ำเสียงที่ต้องใช้พลังในการร้องที่ เล่นลูกคอ และเสียงต้องสูงที่สุด ทำเอาที่ประชุมโห่ร้องด้วยความอัศจรรย์ใจยิ่งนัก และในตอนจบเพลงกรรมการท่านหนึ่งถึงกับหันหลังไปดูที่ประชุม ในการตอบสนองต่อความอัศจรรย์ของหนุ่มเซลล์แมนมือถือคนนี้

อยากหนุนใจคนที่คิดว่าตัวเองไม่สำคัญเท่าไหร่ หรือเป็นเพียงแต่?...... แต่ว่าในตัวท่านมีสิ่งอัศจรรย์ที่พระเจ้ารอเวลาของพระองค์ที่จะโชว์ท่านแก่คนทั้งหลาย ว่าพระองค์ไม่ได้สร้างท่านมาเป็นคนธรรมดา เพราะเรามีสิ่งมีค่าในภาชนะที่ไม่มีค่าไงครับ

http://www.youtube.com/watch?v=1k08yxu57NA


บุคลิคภายนอก (Personality) & อุปนิสัย บุคลิกภายใน (Character)

ปัจจุบันมีการส่งเสริมอุปกรณ์ เครื่องมือไอทีมากมาย การส่งเสริมการแต่งกาย มีการอบรมและพัฒนา ทักษะและบุคลิคภายนอก (Personality) เพื่อจะได้พูด ทำท่าทางประกอบในการเจรจา เพื่อจะได้ชนะใจผู้คน และการพัฒนาในการเป็นผู้นำที่มีลักษณะบุคลิคที่ดีนั้น มีหนังสือและตำราเป็นพัน ๆ เล่มที่น่าอ่าน

แต่ผมอยากจะนำเสนอในมุมของ (Character) อุปนิสัย บุคลิกตัวตนภายใน คือ บุคลิกลักณะตัวตนภายในของท่าน ซึ่งมันสำคัญมาก มันเป็นตัวตนจริง ๆ ทั้งที่อ่านอยู่ส่วนตัวคนเดียวและอยู่ต่อหน้าผู้อื่น และจะเป็นอยู่เจริญขึ้นตามวัย ประสบการณ์ และการได้ผ่านขบวนการผ่านความทุกข์ ปัญหา

ประสบการณ์ต่าง ๆ จะยิ่งทำให้ท่านมั่นคงและเจริญเติบโตขึ้นไปตลอดชีวิตของท่าน หลายครั้งเรา สนในใจบุคลิกภายนอก (Personality) มากกว่าตัวตนภายในของท่าน หากท่านขาดความสมดุลย์เช่นนี้ เวลาผ่านไปอาจพบกับความล้มเหลว ดังนั้นอย่าลืมการอ่าน การฝึกอดกลั้น หาที่ปรึกษา หาคนที่เตือนเราได้ สอนเราได้ เราปรึกษาได้

เมื่อมีปัญหาเราต้องคิดเสมอว่าเรากำลังพัฒนาตัวตนภายในของเราให้เข้มแข็ง แม้อุปสรรคจะเข้ามา ทั้งท่าทางท่าทีภายนอก (Personality) และตัวตนภายใน (Character) ก็จะสงบ ดำเนินไปพร้อมกันอย่างมั่นคง ดังนั้น การอธิษฐาน ภาวนาทุกวัน อ่านพระคัมภีร์ไบเบิล และใช้สติ ทุกอย่าง

เมื่อเจออุปสรรคจงเข้าใจว่ามันคือการสร้างตัวตนของเรา และเป็นการเรียนผ่าน ประสบการณ์ชีวิตจริงครับ ยิ่งไหญ่กว่าในห้องสัมนาเสียอีก
ทุกคนเป็นผู้นำได้ ตอนที่ห้า จุดชนะใจที่ดีที่สุดของผู้นำ

อย่างแรก คือ รักลูกน้อง ไม่ใช่รักงานนะครับ หากท่านรักลูกน้อง ดูแล ถามไถ่ เอาใจใส่พวกเขาและครอบครัว นั่นเป็นอาวุธและของขวัญของท่านที่จะทำให้พวกเขาประทับใจ ท่านพร้อมจะรัก ให้โอกาส และส่งเสริมพวกเขาตลอดเวลา ผู้ตามมทุกคนสัมผัสถึงความจริงใจของท่าน ทำไม? เพราะท่านรักคน คนจะไปทำงานของท่านให้สำเร็จ แต่หากท่านรักงาน ไม่สนใจคนลูกน้องของท่าน เจ็ ป่วย เงินขาด ไม่พอกิน ปัญหา รกรุงรัง เขาก็จะทำงานให้ท่านอย่างด้อยประสิทธิภาพ ดังนั้น คนต้องมาก่อน

อย่างที่สอง โอกาส ไม่มีลูกน้องคนไหน ไม่หวังที่จะมีโอกาส ก้าวไต่ไปสูงกว่าเดิม และฝันว่าหัวหน้างาน จะต้องส่งเสริมเขา แต่ปรากฎว่าสมัยนี้หลายแห่งยังคงมองข้ามจุดนี้ คือ ให้ทีมทำงานไปโดยไม่เคยให้ความหวังในการจะให้ความก้าวหน้า และมักพูดเปรียบเทียบกับคนอื่นนอกบริษัท และสุดท้ายก็จ้าง นำเขาเข้ามาทำในตำแหน่งที่ทีมงานบางคนฝึกขึ้นมาทำก็ได้ แต่ท่านกลับไม่ทำ จึงทำให้กำลังใจของทีมงานเริ่มหมด ไฟเริ่มหาย ตอนนี้เอง ท่านจะเห็นปรากฎการต่อต้าน ดื้อเงียบ ขมขื่น และการโยกย้ายงานเกินขึ้น เพราะท่านขาดการให้ความหวังแก่ทีมงาน

อย่างที่สาม สนับสนุนทีมงานแต่ละคน ซึ่งมีความสามารถแตกต่างกัน หากท่านคอยสนับสนุนเขา ก็เท่ากับท่านสนับสนุนตัวเองขึ้นมา คนเราจะดูคนดูง่ายครับ เราจะดูว่าทีมงานของคนนั้นเก่งแค่ไหน ให้ดูศักกยภาพผู้นำของเขา และจะดูว่าผู้นำคนนั้นฉลาดแค่ไหน ก็ดูการเลือกทีมงานของเขาที่อยู่รอบข้างเขา ดังนั้นผู้ตามต้องเรียนรู้ที่ใฝ่หาความรู้ และผู้นำก็ส่งเสริมผู้ตาม แล้วทีมงานของท่านจะสร้างประโยชน์มหาศาลให้แก่องค์กรครับ
ทุกคนเป็นผู้นำได้ ตอนสี่ ผู้นำแบบไหนที่มีอิทธพลที่สุดและยาวนาน

ตำแหน่งของผู้นำที่มีอิทธิพล มีหลายแบบ แต่ละแบบจะมีจุดดีและจุดอ่อนในตัว ซึ่งจะคุยกันในตอนนี้ เพื่อท่าน จะได้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และแก้ไขโดยเร็ว ก่อนที่เหตุการณ์ที่คิดไม่ถึงจะตามมา

ผู้นำแบบแรก คือ ผู้นำที่ได้รับการแต่งตั้ง
เนื่องจากกการเป็นญาติ หรืออยู่มานาน หรือเหตุผลอื่น ๆ แม้ท่านจะเก่งไม่เก่ง ทำอะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทาง ด้วยตำแหน่งค้ำชูท่านอยู่ และผู้ตามเขาต้องตามเพราะตำแหน่งที่ถูกแต่งตั้งที่ท่านได้รับ แต่หากวันหนึ่งท่านต้องออกจากตำแหน่ง ท่านก็จะหมดอิทธิพลไปพร้อมกับตำแหน่งนั้น เพราะขณะที่ท่านนำท่านอาจทำตัว ใช้อิทธิพลไม่เหมาะสม ผลก็คือท่านหมดอำนาจและอิทธพลไปแล้ว เหลือแต่ ความสัมพันธ์ปกติ

ผู้นำแบบที่สอง คือ ผู้นำแบบความสัมพันธ์
นั่นหมายถึงท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมงาน พนักงาน ไม่ได้รับการแต่งตั้ง แต่ก็มีคนมาหาขอคำปรึกษา ขอความช่วยเหลือ และวันหนึ่งมาพวกเขาอาจจะเชียร์ท่าน ให้ท่านขึ้นมานำพวกเขา ทั้งที่ท่านมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่ความสามารถอาจไม่ถึงก็ได้ แล้วแต่เรื่อง ๆ ไป และแล้วแต่ละคน แต่ว่าวันหนึ่งมาเมื่อความสัมพันธ์หมดไปเพราะเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งเราก็คิดไม่ถึง ปรากฎว่าท่านอาจต้องสูญเสียอิทธิพลไป ด้วยตำแหน่งการนำนั้นมันก็สูญเปล่าได้

แบบที่สาม นำด้วย ลักษณะชีวิต
หรือผมใช้คำว่าจริยธรรม คุณธรรม หรือภาษาของกลุ่มคริสเตียนเรียกว่าด้วยผลของพระวิญญาณ หรือด้วยลักษณะชีวิตของพระคริสต์ ไม่ว่าจะได้รับการแต่งตั้งหรือไม่ หรืออาจไม่ได้มีความสัมพันธ์สนิทสนม คุณอาจจะไม่เก่งในการสร้างความสัมพันธ์ แต่เนื่องด้วยคุณธรรมที่เชื่อใจได้ มีความรัก รู้จักใช้ความเมตตา ทั้งพระเดชและพระคุณเป็น ท่านจะเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลทั้งอยู่ในตำแหน่งและนอกตำแหน่ง เพราะทุกคนสัมผัส จริยธรรม คุณธรรม ชีวิตในพระคริสต์ในท่าน แม้มีเรื่องหยุมหยิมเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ามาในการนำของท่าน ผู้ตามก็ยังคงให้เกียรติยำเกรง ด้วยความถ่อมใจ ความรัก การเอื้ออาทรของท่านที่มีต่อทุกคนครับ

Visitor counter